โดย เดลินิวส์ วันที่ 9 สิงหาคม 2554 เวลา 00:00 น.

เป็นไปตามคาด สำหรับโครงการประกันภัยพืชผลทางการเกษตรที่กำลังประสบปัญหา เพราะเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนายังไม่ได้ให้ความสนใจ ที่ผ่านมารัฐบาลประชาธิปัตย์พยายามเคี่ยวเข็ญจนถึงวินาทีสุดท้าย เพื่อคลอดโครงการประกันภัยฯ ออกมาใส่พานให้กับเกษตรกร โดยประเดิมให้กับชาวนาผู้ปลูกข้าวนาปีที่จะเริ่มในเดือน พ.ย.นี้ก่อน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ส.ค. กลับพบว่ามีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเข้าร่วมโครงการเพียง 26,800 คน มีพื้นที่ปลูกข้าวเพียง 5.42 แสนไร่ จากที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 8.3 ล้านไร่ แม้ว่าจะมีแรงจูงใจให้กับชาวนา ทั้งเรื่องของค่าเบี้ยประกันที่เกษตรกรโดยเฉพาะที่เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส. จะเสียค่าเบี้ยประกันเพียงแค่ไร่ละ 50 บาท

หากเกษตรกรได้รับความเสียหายจากการปลูกข้าว ทั้งกรณีเกิดน้ำท่วม ฝนแล้ง อากาศหนาว ลมพายุ ลูกเห็บ ไฟไหม้ ก็จะได้รับการชดเชยรวมกันแล้วไร่ละ 2,000 บาท ที่สำคัญ ธ.ก.ส. ยังอัดฉีดสร้างแรงกระตุ้นด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยให้อีก 1% เป็นเวลา 6 เดือน แต่จนแล้วจนรอดโครงการนี้ก็ไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมาย จนมีกระแสข่าวเล็ดลอดออกมาว่าบรรดาบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ ต่างเตรียมถอนตัวเพราะเห็นแล้วว่าในอนาคตอาจกลายเป็นภาระ สุดท้าย ธ.ก.ส. ต้องประกาศขยายเวลาการขายกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปีออกไปอีก 1 เดือน หรือจนสิ้นสุดวันที่ 31 ส.ค. 54 นี้

แม้โครงการประกันภัยนี้จะเป็นผลดีกับเกษตรกร ซึ่งเห็นได้จากในช่วงนี้ที่เกษตรกรกำลังได้รับความเสียหาย จากเหตุน้ำท่วมก็จะได้รับการชดเชยพืชผลผลิตเสียหายในราคาไร่ละ 2,000 บาท จากเดิมที่รัฐบาลชดเชยให้เพียง 606 บาทก็ตาม แต่การประชาสัมพันธ์ที่น้อยจนเกินไป แถมยังให้ความคุ้มครองที่ไม่เบ็ดเสร็จ เลยทำให้เกษตรกรไม่สนใจ เรื่องนี้คงต้องเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องเข้ามาทบทวน

ที่มา : เดลินิวส์