โดย สยามธุรกิจ วันที่ 16 กรกฎาคม 2554 เวลา 00:00 น.
วิกฤติเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปส่อเค้าฉายแววทวีความรุนแรงหนักหนาสาหัสยิ่งขึ้น เมื่อสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลกอย่าง “มูดีส์อินเวสเตอร์เซอร์วิส” ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารการเงินรัฐบาลโปรตุเกสลงรวดเดียวถึง 4 ขั้น จากระดับ Baa1 เป็น Ba2 เป็นผลให้ความน่าเชื่อถือของตราสารการเงินรัฐบาลโปรตุเกส เข้าสู่สถานะ “ตราสารขยะ” มูลเหตุสำคัญที่มูดีส์อินเวสเตอร์เซอร์วิส ทุบอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารการเงินรัฐบาลโปรตุเกสลงอย่างรุนแรง สืบเนื่องมาจากความไม่เชื่อมั่นในผลสัมฤทธิ์ของรัฐบาลโปรตุเกส ในการปรับลดการขาดดุลงบประมาณในระยะ 3 ปี ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
รัฐบาลโปรตุเกสได้วางเป้าหมายลดการขาดดุลงบประมาณต่อมูลค่าผลผลิตมวลรวมประชาชาติ (จีดีพี) ลงจากร้อยละ 9.1 ของจีดีพีเมื่อปีที่แล้วมาอยู่ที่ร้อยละ 5.9 ในปีนี้ และลดลงเหลือร้อยละ 4.5 ในปี 2555 ก่อนที่จะถูกปรับลดลงไปเหลือร้อยละ 3 ในปี 2556 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่มูดีส์อินเวสเตอร์เซอร์วิสไม่เชื่อว่าจะทำได้ ก่อนหน้านี้มูดีส์อินเวสเตอร์เซอร์วิสได้เคย ปรับลดความน่าเชื่อถือตราสารการเงินของรัฐบาลกรีซลงสู่สถานะ “ตราสารขยะ” ไปแล้ว ด้วยเหตุผลทำนองเดียวกัน กระทั่งกดดันให้รัฐบาลกรีซเพิ่มความพยายาม ในการลดการขาดดุลงบประมาณมากขึ้น และกลายเป็นที่มาของเหตุการณ์จลาจลครั้งรุนแรงขึ้นในประเทศ เนื่องจากประชาชนจำนวนมากเคลื่อนไหวชุมนุมต่อต้านมาตรการ “รัดเข็มขัด” เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล
ไม่เพียงมูดีส์อินเวสเตอร์เซอร์วิสเท่านั้น ที่เฝ้าจับตาติดตามความเคลื่อนไหว ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของกรีซ แต่ค่ายเอสแอนด์พีและฟิตซ์เรทติ้ง 2 สถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลกเช่นเดียวกัน ก็เฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจกรีซอย่างใกล้ชิด และมีแนวโน้มสูงมากที่ทั้ง 2 สำนักจะพิจารณาปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงตามมูดีส์อินเวสเตอร์เซอร์วิส เหตุปัจจัยที่ทำให้เอสแอนด์พี และฟิตซ์เรทติ้ง มีความโน้มเอียงจะปรับลดความน่าเชื่อถือของตราสารการเงินรัฐบาลกรีซ มีอยู่ด้วยกัน 2 ประการ
ประการแรก ไม่เชื่อมั่นในขีดความสามารถในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ประการที่สอง ไม่เชื่อมั่นในขีดความสามารถในการปรับลดการขาดดุลงบประมาณ
ปรากฏการณ์ความเสื่อมด้านความน่าเชื่อถือของโปรตุเกส และกรีซ ซึ่งเป็นชาติภาคีสมาชิกสหภาพยุโรป ที่ถูกกำหนดโดยสถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสัญชาติอเมริกัน เป็นสิ่งที่กำลังสร้างความกระอักกระอ่วนใจอย่างยิ่ง ในหมู่ผู้นำชาติสมาชิกสหภาพยุโรป ถึงขั้นมีผู้นำชาติสมาชิกบางชาติออกมาสนับสนุน ให้มีการจัดตั้งสถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสัญชาติยุโรปขึ้นมา เพื่อถ่วงดุลกับสถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออเมริกัน
อย่างไรก็ตาม ผลจากการปรับ ลดอันดับความน่าเชื่อถือของทั้งมูดีส์อินเวสเตอร์เซอร์วิส เอสแอนด์พี และฟิตซ์เรทติ้ง ทำให้ความพยายามของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (The Institute for International Finance-IIF) ซึ่งเป็นองค์กรกลางของ 400 ธนาคารและบริษัทประกันภัย กำลังประสบปัญหาในการเรียกร้องให้มีการซิ้อคืนพันธบัตรรัฐบาลกรีซ และไอเอ็มเอฟ ก็เกิดอาการลังเลในการอัดฉีดเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม
ที่มา : สยามธุรกิจ