โดย สยามธุรกิจ วันที่ 29 มิถุนายน 2554 เวลา 00:00 น.

ธุรกิจประกันภัยมีการเติบโตสูงขึ้นเนื่องจากธุรกิจ ประกันภัยมีการส่งเสริมความรู้ด้านการประกันภัยสู่ประชาชน การแข่งขันพัฒนาช่องทางการจำหน่าย และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้เหมาะสมกับความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาด้านการประกันภัยสุขภาพ มีจำนวนผู้ทำประกันภัยมากขึ้นเป็นลำดับ

สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยประชาชนที่จะซื้อกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพ ซึ่งเป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันภัยสำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เนื่องจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วยจากโรคภัย โดยขอให้ประชาชนศึกษาดูรายละเอียด และเงื่อนไขกรมธรรม์ตลอดจนเอกสารแนบท้ายให้เข้าใจ ว่าตรงกับความต้องการหรือไม่เพื่อประโยชน์แก่ผู้เอาประกันภัยเอง ปัจจุบันธุรกิจประกันภัยมีบริษัทประกันสุขภาพจำนวน 5 บริษัท ซึ่งสามารถ ขายได้เฉพาะกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพเท่านั้น ไม่สามารถเสนอขายกรมธรรม์ ประกันภัยประเภทอื่นได้ เช่น ไม่สามารถเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์หรือ การประกันอัคคีภัย

คปภ.ดักทาง “เอเพ็กซ์” กลัวสบช่องเปลี่ยนชื่อขายกธ.ประกันภัยรถยนต์ อย่างไรก็ดีการที่คปภ.ออกข่าวเตือนประชาชน เรื่องการซื้อประกันสุขภาพตลอดจนตอกย้ำบริษัทประกันสุขภาพ ไม่สามารถขายกรมธรรม์อื่นได้นั้นมองเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่จากการตรวจสอบของพบว่าเป็นการออกข่าวดักหน้า บริษัท เอเพ็กซ์ประกันสุขภาพ จำกัด ที่เพิ่งเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบริษัท บริรักษ์ประกันภัย จำกัด หลังจากมีข่าวเล็ดลอดออกมาบริษัทจะขายกรมธรรม์อื่นที่ไม่ใช่สุขภาพ เช่น ประกันภัยรถยนต์ เป็นต้น

ย้ำผิดกฎหมายไม่มีใบอนุญาตโทษหนักจำคุก 2 ปีปรับสูงสุด 5 แสน ทั้งนี้ กฎหมายประกันภัยกำหนดเรื่องการใช้ชื่อของบริษัทประกันภัย แค่ว่าให้มีคำลงท้ายว่าประกันภัยหรือประกันชีวิตอยู่ในชื่อด้วย ถ้าเป็นประกันสุขภาพไม่ได้กำหนดต้องลงท้ายด้วยประกันสุขภาพ ดังนั้นบริษัทประกันสุขภาพจึงสามารถตั้งชื่อใหม่ โดยไม่มีคำว่าประกันสุขภาพได้ แต่ไม่ว่าจะใช้ชื่อว่าอะไรถ้าหากเป็นผลิตภัณฑ์ประกันภัย ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ขายแล้วไม่สามารถขายได้ผิดกฎหมายทันที และมีบทลงโทษค่อนข้างรุนแรง โดยผู้ใดก็ตามที่ขายกรมธรรม์ประกันภัยที่ไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุก 2 ปีพร้อมปรับอีก 200,000-500,000 บาทขึ้นอยู่กับระดับความผิด

“ขึ้นอยู่กับผู้บริหารของบริษัทประกันภัย รู้อยู่แล้วว่ากรมธรรม์ประเภทนี้ไม่สามารถขายได้ แต่ยังฝ่าฝืนขายอีกเท่ากับตั้งใจทำผิด หากมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นประชาชนที่หลงทำประกันภัยได้รับความคุ้มครองอยู่แล้ว ตอนนี้คปภ.ไม่มีอำนาจกำหนดคุณสมบัติที่เหมาะสมของผู้บริหาร (Fit & Proper) ที่ใช้อยู่ในตอนนี้เป็นแค่คู่มือให้บริษัทนำไปปฏิบัติเท่านั้น แต่ไม่มีบทลงโทษ เร็วๆ นี้คงจะมีการแก้ไขกฎระเบียบกำหนดออกมาเป็นหลักเกณฑ์ พร้อมกับบทลงโทษเพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติเร็วๆ คงไม่รอแก้ไขกฎหมายแม่บท พ.ร.บ. ประกันชีวิตและพ.ร.บ.ประกันวินาศภัย ซึ่งต้องใช้เวลา”

ที่มา : สยามธุรกิจ