โดย สยามธุรกิจ วันที่ 22 มิถุนายน 2554 เวลา 00:00 น.
“กฎหมายประกันชีวิตและประกันวินาศภัยที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือฉบับแก้ไขเมื่อปี 2551 ที่แก้ไขเพิ่มเติมบางส่วนจากปี 2535 ซึ่งเป็นการแก้ไขเพียงบางจุดเท่านั้น อย่างมีมาตรการใหม่ๆ เพิ่ม เช่น เกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามระดับความ เสี่ยง (Risk Based Capital : RBC) ขณะที่มาตรการหลักๆ ยังใช้ของเดิมเมื่อปี 2535 ที่มีต้นตอมาจากปี 2510 ที่เราเริ่มมีกฎหมายประกันภัย คิดว่าถึงเวลาที่จะต้องยกเครื่องกฎหมายประกันภัยทั้ง 2 ฉบับใหม่เสียทีถ้าเป็น รถต้องบอกว่าถึงเวลาต้องยกเครื่องใหม่ เนื่องจากกฎหมายที่เราใช้อยู่ในตอนนี้ยังตามไม่ทันกับธุรกิจประกันภัยที่ไปเร็วมาก โลกเปลี่ยนไปเร็วมากไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ความคิดของคน สินค้าใหม่ๆ ออกมาเยอะมาก ช่องทางขายก็เยอะ ดังนั้นกฎหมายต้องทันกับสิ่งเหล่านี้”
รองเลขาธิการด้านกฎหมาย คดีและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคปภ. ศึกษาต้นแบบต่างประเทศตั้งเป้าปี 57 ต้องมีก.ม.ใหม่ การยกเครื่องกฎหมายทั้ง 2 ฉบับถือเป็นครั้งใหญ่ครั้งที่ 2 นับแต่ปี 2535 โดยจะทำทุกด้านบนหลักการใหญ่ 2 เรื่องๆ คือ
1.ทำอย่างไรให้ธุรกิจประกันภัยมั่นคงและเติบโตได้ต่อไปและ
2. คุ้มครองผู้บริโภคทำให้ผู้บริโภค ได้ประโยชน์จากการทำประกันภัย และปลอดภัยจากการทำประกันภัยมากที่สุด
ซึ่งแนวทางการยกร่างกฎหมายแม่บททั้ง 2 ฉบับจะรวบรวม สรุปประเด็นปัญหา ศึกษาและวิเคราะห์กฎหมายต่างประเทศ และตั้งคณะทำงานร่วมกับภาคธุรกิจเพื่อร่วมกันพิจารณา “เราจะมีข้อมูลของเราส่วนหนึ่ง ภาคธุรกิจเขาจะมีส่วนหนึ่งมาคุยกันของใหม่จะเป็นแบบไหน พร้อมกันนั้น จะจ้างหน่วยงานที่ถนัดด้านกฎหมายโดยตรงศึกษากฎหมายของต่างประเทศให้อย่างน้อย 3-4 ประเทศในเอเชีย ยุโรป อเมริกา คงให้น้ำหนักกับเอเชียเป็นหลักเพราะ มีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับบ้านเรา ดูอันที่เป็นประโยชน์กับเราเอาข้อมูลมาประกอบ การยกร่าง หวังว่าปี 2557 เราจะมีกฎหมายใหม่แต่ก็บอกยากเพราะขั้นตอนการ ออกกฎหมายแต่ละฉบับต้องผ่านสภา”
สาเหตุที่มุ่งแก้ไข 2 ฉบับนี้ไม่ทำพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถด้วย รองเลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า พ.ร.บ.คุ้ม ครองผู้ประสบภัยจากรถแก้ไขไป 4 ครั้งแล้วยังใช้ได้อยู่ ขณะที่ 2 ฉบับที่ว่าเป็นเครื่องมือกำกับดูแลส่งเสริมบริษัทประกันภัยให้มั่นคง ซึ่งหลังจากยกร่างกฎหมายแม่เสร็จจะมีอนุบัญญัติหรือกฎหมายลูกต่างๆ ออกตามมา เพิ่ม มาตรการแทรกแซงวินาศภัยอาจควบคุมเหมือนบริษัทชีวิต
ถามถึงกระบวนการกำกับบริษัทประกันภัย กรณีบริษัทฐานะการเงินมีปัญหาหรือมีการดำเนินการ ที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ซึ่งปัจจุบันมาตรการที่ใช้กับบริษัทประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัยเป็นคนละมาตรการ เพราะอยู่ภายใต้กฎหมายคนละฉบับกัน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจจะใช้มาตรการเข้าไปควบคุมบริษัทเหมือนกัน ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในหลายแนวทางที่ต้องมาศึกษากัน
มาตรการแทรกแซงเพื่อกำกับบริษัทประกันวินาศภัย กรณีมีปัญหาเกิดขึ้นเป็นไปได้หลายโมเดล อย่างที่สหรัฐอเมริกาใช้อยู่หากบริษัทไม่จ่ายสินไหมทดแทน กฎหมายให้อำนาจกรมการประกันภัยฟ้องศาลแพ่งนำ ทรัพย์สินบริษัทออกมาขายทอดตลาด เอาเงินมาจ่ายให้กับลูกค้า เอกชนรอ คปภ. ส่งซิกชี้หลักการต้องทันกับศก.สังคม
ที่มา : สยามธุรกิจ