โดย อาร์วายทีไนน์ วันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2553

นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่าเดือนกันยายนของทุกปีสำนักงาน คปภ.กำหนดให้เป็นเดือนแห่งการประกันภัยเพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการส่งเสริมและรณรงค์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงคุณค่า และประโยชน์ของการทำประกันภัย คาดว่าจะมีประชาชนเข้าชมงาน "สัปดาห์ประกันภัย 2553" ที่อาคาร 9 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 24-26 กันยายนนี้ ตลอด 3 วัน ไม่ต่ำกว่า 100,000 คน ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เป็นการรวมพลคนประกันภัยครั้งยิ่งใหญ่ในรอบปีที่ได้ ร่วมมือกันรณรงค์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงคุณค่า และประโยชน์ของการสร้างหลักประกันความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมประกันภัยที่หลากหลาย

ทั้งนี้ แนวโน้มธุรกิจประกันภัย เท่าที่สำนักงาน คปภ.ได้ประชุมหารือกับทางบริษัทธุรกิจประกันภัยและธุรกิจประกันชีวิต ปีนี้เชื่อว่าจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น น่าจะทำให้อัตราเบี้ยรับประกันภัยขยายตัวไม่ต่ำกว่า 16 % หรือเบี้ยรับตรงกว่า 420,000 ล้านบาท แยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตกว่า 60 % และเบี้ยประกันภัยกว่า 40% ตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคม ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตเติบโต 2 หลัก

และขณะนี้ทางกระทรวงการคลังและกรมสรรพากรอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียด การเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีในการทำประกันจากขณะนี้ 100,000 เป็น 200,000 บาท รวมถึงค่าลดหย่อนประกันสุขภาพ คาดว่าน่าจะมีผลทางปฏิบัติในช่วงปลายปีหรือต้นปีหน้า โดย คปภ.ต้องการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาทำประกันภัยรูปแบบต่างๆ ให้มากขึ้น ถือว่าเป็นการออมเงินระยะยาวที่จะดูแลทั้งสุขภาพ และทรัพย์สินผู้เอาประกันภัยอีกด้วย

นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ.ยังจัดทำแผนพัฒนาการประกันภัยฉบับที่ 2 ตั้งแต่ปี 2553-2557 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้ภาคธุรกิจประกันชีวิตและประกันภัยมีอัตราการเติบโต อย่างมั่นคง เพราะการประกันชีวิตถือเป็นการออมระยะยาว ดังนั้น แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 2 มีเป้าหมายหลักเพิ่มสัดส่วนเบี้ยประกันภัยต่อจีดีพี เป็น 6% เพิ่มกรมธรรม์ประกันชีวิตต่อจำนวนประชากรเป็น 40% ในปี 2557 และเพิ่มกรมธรรม์แบบ ไมโครอินชัวรันส์ ขึ้น 20% จากปี 2553 และบริษัทประกันภัยทุกบริษัทต้องมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้อง ดำรงไว้ตามกฎหมายไม่ต่ำกว่า 20% และยังมีรูปแบบประกันภัยอื่นๆ ที่ทาง คปภ. จะร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต ภายใน 5 ปี

ที่มา : อาร์วายทีไนน์