กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทแจ้งมติพิเศษเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 200 ล้านบาท ทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 1,618,425,000 บาท พร้อมกับเรียกชำระเงินเพิ่มทุนงวดแรกแล้ว 50 ล้านบาทนั้น ล่าสุดเพิ่งเรียกชำระเพิ่มเข้ามาอีก 50 ล้านบาท ทำให้ทุนจดทะเบียนชำระแล้วเพิ่มเป็น 1,518,425,000 ล้าน บาทเพื่อสร้างเงินกองทุนให้แข็งแกร่ง รองรับการขยายธุรกิจ ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าหมายเบี้ย ประกันภัย ประมาณ 3,000 ล้านบาท เติบโต 20%
"เรื่องเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามความเสี่ยงหรือ RBC เรากังวลว่าถ้ามาตรการของ คปภ.ที่ผ่อนผันเรื่องเงินกองทุน ให้กับบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคมปีหน้า เราไม่รู้ว่าจะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง แม้น้ำท่วมจะไม่ส่งผลกระทบกับเราเลยก็ตาม ตอนนี้เงินกองทุนสูงกว่ากฎหมายกำหนด แต่เราเผื่อไว้เพื่อเบี้ย ประกันภัย เราโตกระโดด หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นอีก"
สำหรับในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีเบี้ย ประกันภัย เกือบ 1,500 ล้านบาท เติบโต 20% โดย 97% เป็น ประกันภัยรถยนต์ คาดว่าถึงสิ้นปีเบี้ย ประกันภัย อาจจะถึง 3,333 ล้านบาท ที่เป็นเป้าหมายที่สองที่ตั้งไว้ให้กับฝ่ายขายด้วย เพราะปกติครึ่งปีหลังยอดขายจะมากกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งนอกจากเบี้ย ประกันภัย จะเติบโตตามเป้าแล้ว บริษัทยังขาดทุนลดลงเหลือประมาณ 5 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่ขาดทุน 40-50 ล้านบาท ซึ่งตาม KPI ของบริษัทหากขาดทุนไม่ถึง 20 ล้านบาท จะจ่ายโบนัสให้กับพนักงาน 1 เดือน ซึ่งได้จ่ายไปแล้วและถ้ามีกำไรจะจ่ายโบนัส 2 เดือน ซึ่งบริษัทมียอดขาดทุนสะสมกว่า 200 ล้านบาท
สาเหตุที่ขาดทุนลดลง เพราะควบคุมสินไหมทดแทน (Loss Ratio) ได้ดีขึ้น การพิจารณารับ ประกันภัย ทำได้ดีขึ้น โดยมีการกำหนดค่าความเสียหายส่วนแรก (Deductible) สำหรับ ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ประมาณ 3,000-5,000 บาท เพื่อป้องกันรถยนต์ที่มีความเสี่ยงสูง ได้ทำความเข้าใจกับลูกค้าหากเกิดการชน ต้องร่วมรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกด้วย ซึ่งถ้าไม่ชนไม่ต้องจ่ายส่วนนี้ อีกส่วนมาจากบริษัทไม่ได้รับรถยนต์ใหม่ จะรับรถยนต์ปีสองขึ้นไป ดังนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถยนต์คันแรกที่มีค่าเสียหายสูงด้วย ทำให้ลอสเรโช ประกันภัยรถยนต์ เฉลี่ยไม่สูง ประมาณ 58%
ส่วนการขยายธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง กล่าวว่า ยังคงเน้น ประกันภัยรถยนต์ เป็นหลัก จะคงสัดส่วน 97% เพราะมีเป้าหมายที่จะขึ้นเป็นผู้นำในตลาด ประกันภัยรถยนต์ รายย่อย ผ่านตัวแทนที่มีประมาณ 20,000-30,000 คน เนื่องจากบริษัทไม่มีช่องทางขายผ่านธนาคาร หรือแบงก์แอสชัวรันส์ จึงไม่มี ประกันภัย ไม่ใช่รถยนต์ (นอน มอเตอร์) มาก และไม่มีไฟแนนซ์ดีลเลอร์
โดยสินค้าหลักที่จะใช้เพิ่มยอดขายคือ ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 เบี้ย ประกันภัย 9,900 บาทราคาเดียวที่นำมาปรับปรุงใหม่ ขยายประเภทรถยนต์ที่จะรับ ประกันภัยรถยนต์ ให้มากขึ้น กำหนดค่าเสียหายส่วนแรกสูงสุด 5,000 บาท กรณีลูกค้าเป็นฝ่ายผิด อยู่ในตระกูลมิตรแท้สุดคุ้ม เพิ่งนำออกขายเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ไม่ได้ตั้งเป้ายอดขาย แต่ประเมินค่าสินไหมทดแทน น่าจะอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยของบริษัท
" ประกันภัยรถยนต์ ถ้าหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว มีกำไร 3-5% ก็โอเคแล้ว เรามีรถยนต์ที่มีลอส เรโช สูงๆ บางตัวเกิน 100% เข้ามา ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ปฏิเสธยาก เพราะรับเป็นกลุ่มใหญ่เข้ามา ก็จะให้ฝ่ายอันเดอร์ไรท์ดูให้เข้มข้นขึ้น คุมกระบวนการพิจารณาค่าสินไหม เรามีห้องปฏิบัติการสินไหม จะเคาะราคากันตลอด 24 ชม.ทำงานกันเป็นทีม มีทั้งเจ้าหน้าที่ประเมินราคา ตรวจสอบเคลมอยู่ครบ จากเดิมจะมีแค่หัวหน้าสินไหม เริ่มทำมาระยะหนึ่งแล้ว"
ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 50% จากเดิม ขณะที่ ประกันภัยรถยนต์ชั้น3 และตระกูลพลัสลดลงจาก 60% เหลือ 50% แม ประกันภัยรถยนต์้ชั้น1 จะเพิ่มขึ้นก็ไม่น่ากังวล หากสามารถควบคุมสินไหม และการพิจารณารับ ประกันภัย ได้ โดยเพิ่มอู่ซ่อมรองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีอู่พันธมิตร 500-600 อู่ สามารถวางบิลค่าซ่อมภายใน 7 วัน ขณะเดียวกันคงไม่ปรับเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 เพิ่มขึ้น เพราะเพิ่งปรับไป และต้องรอดูสินไหมสิ้นปี
ที่มา : สยามธุรกิจ