เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ช่วง 11 เดือนของปี 2555 (มกราคม-พฤศจิกายน) ธุรกิจ ประกันภัย มีเบี้ย ประกันภัย รับโดยตรง รวมทั้งสิ้น 506,539 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 20.72 มีกรมธรรม์รายใหม่รวมทั้งสิ้น 48,345,578 กรมธรรม์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 12.79 โดยแยกเป็น ธุรกิจประกันชีวิต มีเบี้ย ประกันภัย รับโดยตรง รวมทั้งสิ้น 343,963 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 17.17 โดยเบี้ยประกันชีวิตรับสูงสุด เป็นประเภทสามัญจำนวน 288,782 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 16.43 รองลงมาเป็นประเภทกลุ่มจำนวน 42,659 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 28.45 มีกรมธรรม์รายใหม่เกิดขึ้นทั้งสิ้น 4,838,628 กรมธรรม์ กรมธรรม์รายใหม่สูงสุดเป็นประเภทสามัญจำนวน 2,718,544 กรมธรรม์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 13.53 รองลงมาเป็นการ ประกันภัย อุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) จำนวน 1,983,789 กรมธรรม์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.27 ส่งผลให้ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2555 กรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีผลบังคับรวมทั้งสิ้น 20,696,743 กรมธรรม์ คิดเป็นสัดส่วนผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตต่อจำนวนประชากรร้อยละ 31.993
ธุรกิจประกันวินาศภัย มีเบี้ย ประกันภัย รับโดยตรงรวมทั้งสิ้น 162,576 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 29.00 โดยมีเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ สูงสุดจำนวน 93,884 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 25.19 รองลงมาเป็นเบี้ย ประกันภัย เบ็ดเตล็ดจำนวน 55,076 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 39.70 มีกรมธรรม์รายใหม่เกิดขึ้นทั้งสิ้น 43,506,950 กรมธรรม์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 13.16 กรมธรรม์รายใหม่สูงสุด เป็นกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ จำนวน 29,311,875 กรมธรรม์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.04 รองลงมาเป็นกรมธรรม์ ประกันภัย เบ็ดเตล็ด 10,769,029 กรมธรรม์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 23.49 ส่งผลให้ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2555 ธุรกิจประกันวินาศภัยมีกรมธรรม์ที่มีผลบังคับทั้งสิ้น 47,017,056 กรมธรรม์ คิดเป็นผู้ถือกรมธรรม์ประกันวินาศภัยร้อยละ 72.67
สาเหตุที่ทำให้ธุรกิจประกันวินาศภัยมีอัตราการเติบโตสูงกว่า ธุรกิจประกันชีวิตเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสิบปี เป็นผลจากมาตรการคืนเงินภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อ ประกันภัย ของประชาชน ที่เลือกซื้อความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการ เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า แม้ธุรกิจ ประกันภัย จะเผชิญปัญหาด้านเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงผลกระทบหลังจากเกิดเหตุการณ์อุทกภัยในช่วงปลายปี 2554 ส่งผลกระทบต่อฐานะการดำเนินงานของหลายบริษัท แต่ธุรกิจ ประกันภัย ก็สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง สะท้อนได้จากตัวเลขเบี้ย ประกันภัย รับ โดยตั้งแต่ มกราคม ถึงพฤศจิกายน 2555 ดังนั้นคาดว่าสิ้นปี 2555 เบี้ย ประกันภัย รับโดยตรงของธุรกิจ ประกันภัย จะอยู่ที่ประมาณ 563,740 ล้านบาท อัตราการเจริญเติบโตร้อยละ 20.28 และมีสัดส่วนเบี้ย ประกันภัย ต่อ GDP อยู่ที่ร้อยละ 4.92
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ