นายกสมาคมประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ยังไม่สามารถประเมินเป็นวงเงินสินไหมทดแทน ที่บริษัทประกันภัยจะต้องจ่ายให้กับประชาชนได้ เนื่องจากต้องรอให้ระดับน้ำลดลง และให้ประชาชนยื่นขอสินไหมทดแทนก่อน จึงจะทราบวงเงินดังกล่าว โดยปีที่ผ่านมามีประชาชนสนใจทำประกันภัยน้ำท่วมมากขึ้น แต่สิ่งที่น่าห่วงคือ ประชาชนมีการจ่ายเบี้ยประกันภัยต่อเนื่องหรือไม่
อย่างไรก็ตาม การประกันวินาศภัยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ การประกันภัยพิบัติ และการประกันภัยน้ำท่วมธรรมดา โดยการประกันภัยน้ำท่วมธรรมดา จะเป็นความรับผิดชอบของบริษัทประกันภัยโดยตรง เพราะรัฐบาลยังไม่ได้ประกาศให้เป็นภัยพิบัติแห่งชาติ รวมทั้งความเสียหายยังไม่ถึง 5,000 ล้านบาท ตามหลักเกณฑ์ของกองทุน
เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ภายในงานสัปดาห์ประกันภัย ระหว่างวันที่ 28-30 ก.ย.นี้ มีนวัตกรรมด้านการประกันภัยใหม่ๆ เช่น กรมธรรม์ประกันภัยพิเศษลดสูงสุด 30% ประกันภัยรถยนต์ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินราคาพิเศษ การจำหน่ายหมวกกันน็อกราคาพิเศษ 85 บาทเฉพาะในงาน
นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตปีนี้ คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 18% สูงกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ 15% เนื่องจากบริษัทประกันภัยมีการแข่งขันการออกผลิตภัณฑ์ ที่เน้นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
ที่มา : อาร์วายทีไนน์